209 จำนวนผู้เข้าชม |
ซีพี-เมจิ เดินหน้าสร้างการรับรู้ด้านการจัดการขยะพลาสติก ขับเคลื่อนโครงการ “ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปี 2 เปลี่ยนคุณขุ่น เป็นคุณต้นไม้” ร่วมกับธุรกิจร้านกาแฟ ตั้งเป้าเก็บแกลลอนนมพลาสติก 50,000 ขวดกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี สร้างสมการ 50,000 ขวดเพื่อการปลูกต้นไม้ในป่า 1,000 ต้น
นางสาวชาลินี พูนลาภมงคล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และความยั่งยืน บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดโครงการ “ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปี 2 เปลี่ยนคุณขุ่นเป็นคุณต้นไม้” ซึ่งเป็นโครงการภายใต้นโยบายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยต่อยอดจากความสำเร็จของปีแรก สร้างการตระหนักรู้ และความเข้าใจให้กับสาธารณชนในเรื่องการจัดการขยะ ตั้งแต่ คัด แยก ทิ้ง และส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล อย่างถูกวิธี ซีพี-เมจิ เป็นผู้ผลิตนมและโยเกิร์ตพาสเจอร์ไรส์ภายใต้แบรนด์ เมจิ โดยตลอดระยะเวลากว่า 35 ปีของการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มีเจตนารมณ์องค์กรในการ “เพิ่มคุณค่าชีวิต” ให้กับผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการหลากหลาย ทั้งการส่งเสริมเกษตรกรโคนม นวัตกรรมเพื่อสุขภาพ การยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานและชุมชน รวมถึงการจัดการพลังงาน น้ำ ของเสีย และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
“การจัดการขยะพลาสติกเป็นเรื่องที่อยู่ในโรดแมปการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมของซีพี-เมจิ ในฐานะผู้ผลิต เรามุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการจัดการขยะ ซึ่งในปีแรกของโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น เราขอความร่วมมือให้ลูกค้าที่ซื้อนมเมจิ ส่งแกลลอนที่ใช้แล้วไปยังจุดรับทิ้ง เพื่อรวบรวมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และนำไปผลิตเป็นถังขยะจำนวน 500 ใบ
ส่วนในปีที่ 2 นี้ ซีพี-เมจิ ตั้งใจขยายโครงการเข้ามาสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่ยังอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของเรา นั่นคือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านกาแฟ โดยขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟ ช่วยกันส่งแกลอนนมใช้แล้ว เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง โดยตั้งเป้าเก็บรวบรวมให้ได้ 50,000 แกลลอน และทุกๆ 50 แกลลอน จะมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1 ต้นในพื้นที่จังหวัดสระบุรี” นางสาวชาลินีกล่าวถึงวิสัยทัศน์ และวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ
ทางด้านนายทศพล ศุภเมธีกูลวัฒน์ ผู้ก่อตั้งบริษัท บลู ไพณ์ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ดูแลการจัดเก็บและนำส่งแกลลอนในโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น กล่าวว่าเจ้าของร้านกาแฟที่เข้าร่วมโครงการ สามารถดาวโหลดแอพลิเคชั่นที่ถูกออกแบบขึ้นมาเฉพาะสำหรับโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น พร้อมกับลงทะเบียน และเริ่มส่งข้อมูลจำนวนแกลลอนที่ใช้แล้วของผลิตภัณฑ์ซีพี-เมจิ เข้าสู่ระบบตลอดระยะเวลาของโครงการ ก่อนที่ผู้รับซื้อ หรือผู้ประกอบการในธุรกิจรีไซเคิล จะเข้าไปรับแกลลอนเหลือใช้เหล่านี้ เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการ ล้าง บด หลอม เป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสำหรับใช้งานต่อไป
“ความสำเร็จของโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปีที่ 1 สามารถคิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้ 2,160 กิโลกรัมคาร์บอน หรือเท่ากับระยะทางในการขับรถ 8,000 กิโลเมตร ส่วนในปีที่ 2 ของโครงการ การจัดเก็บแกลลอน 50,000 ขวดเพื่อนำไปรีไซเคิลนี้ จะคิดเป็นค่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้กว่า 7,200 กิโลกรัมคาร์บอน ในขณะที่กิจกรรมการปลูกต้นไม้ จะสามารถนำมาคำนวนเพื่อเก็บ ค่าการกักเก็บคาร์บอนได้ปีละ 21,772 กิโลกรัมคาร์บอน” นายทศพลกล่าว
ทางด้านนางสาวรชธภร ฐานะวร ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี ระบุว่า โครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่นได้กลับมาสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง “การปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น จะช่วยสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับจังหวัดสระบุรี เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการเป็นพื้นที่ของเมืองต้นแบบสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ แห่งแรกของประเทศไทยตามกรอบกลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ”
โครงการ “ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปี 2 เปลี่ยนคุณขุ่นเป็นคุณต้นไม้” มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 เดือน โดย ซีพี-เมจิ กำหนดให้การส่งแกลลอนนมใช้แล้วทั้งหมด 50,000 แกลลอน แทนค่าเป็นการปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น “เจ้าของร้านกาแฟ และบาริสต้าที่เข้าร่วมโครงการกับเรา จะเดินทางไปร่วมกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ในจังหวัดสระบุรีในเดือนตุลาคม ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการปลูกป่าตามความตกลงร่วมกันระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับ ซีพี-เมจิ ให้ได้ทั้งหมด 1,000 ไร่ในระยะเวลา 5 ปี” นางสาวชาลินีกล่าว