281 จำนวนผู้เข้าชม |
นายแพทย์สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลยันฮี พร้อมด้วย คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และ แพทย์หญิงสิรินทรา สัมฤทธิวณิชชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลยันฮี ร่วมกันแถลงข่าวสืบเนื่องกรณีที่ น.ส.อัง (นามสมมุติ) อดีตพริตตี้ ได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิฯ หลังป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ จนร่างกายผอมโซ ขาทั้ง 2 ข้าง มีอาการชาและลีบ ไม่สามารถเดินได้ ต้องทุกข์ทรมาน ทานอาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย และพักอาศัยตัวคนเดียวในสภาพแวดล้อมที่สกปรกไร้คนดูแล ทางมูลนิธิฯ จึงได้รุดไปเยี่ยมที่บ้านพักก่อนรับตัวมาส่งที่โรงพยาบาลยันฮี เพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษาโดยทันที
ซึ่งโรงพยาบาลยันฮียินดีให้การช่วยเหลือพร้อมทั้งตรวจร่างกายและซักประวัติเพื่อทำการวินิจฉัยโรคประเมินอาการและวางแผนการรักษารวมถึงจัดห้องพักในโรงพยาบาลให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายตลอดการพักรักษาตัวเพื่อให้น.ส.อัง สามารถกลับมาเดินและใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนเดิม
ด้านนายแพทย์นเรศศักดิ์ เหล่าสงวนเอก แพทย์ด้านอายุรกรรมระบบประสาท โรงพยาบาลยันฮี ได้กล่าวถึงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นจากการสังเกตและตรวจร่างกาย น.ส.อัง เป็นอาการเกี่ยวกับระบบประสาท ซึ่งต้องตามหารอยโรค อาจเป็นความผิดปกติบริเวณไขสันหลังหรือหมอนรองกระดูกทับเส้น ทั้งนี้ยังต้องรอผลเอกซเรย์และผลตรวจเลือดที่แน่นอน จึงจะสามารถยืนยันเรื่องการวินิจฉัยโรคและแนวทางการรักษาที่เฉพาะต่อไป
ทั้งนี้ในขั้นตอนแรกสามารถวินิจฉัยได้ว่าโรคดังกล่าวไม่ได้เกิดจากกรณีที่น.ส.อัง ทำการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีเมื่อปีก่อน แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นใหม่หลังผ่านการรักษาไปแล้ว โดยทั่วไปอาการเหล่านี้มักเกิดจากปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้น ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เมื่อพิจารณาร่วมกับอาการกล้ามเนื้อฝ่อและลีบที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้โรงพยาบาลต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาพอสมควร เพื่อเฝ้าระวังถึงภาวะแทรกซ้อนหลังจากเดินไม่ได้ อาทิ แผลกดทับหรือแผลติดเชื้อที่มีแนวโน้มอันตรายมากกว่า
โดยแพทย์หญิงสิรินทรา ได้กล่าวเสริมว่า การรักษาเบื้องต้นของ น.ส.อังจะมุ่งเน้นฟื้นฟูที่ระบบกล้ามเนื้อก่อนโดยแพทย์ผู้ชำนาญการและสหวิชาชีพด้านต่างๆอาทิโภชนบำบัดกายภาพบำบัดรวมถึงการให้วิตามินต่างๆเพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้นโดยเร็ว
อีกทั้งการรักษาน.ส.อัง ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ โรงพยาบาลยันฮี และมูลนิธิปวีณาฯ ร่วมกันช่วยเหลือสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งสองหน่วยงานได้ช่วยกันดูแลรักษาผู้ป่วยหลายๆ เคส จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลยันฮีขอขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เชื่อมั่นในทีมแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาล ในการช่วยเหลือสังคม และผู้ป่วยมากว่า 20 ปี ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเยียวยาร่างกายและจิตใจให้ผู้ป่วยเหล่านั้น กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขต่อไป