273 จำนวนผู้เข้าชม |
นายพิษณุพร อุทกภาชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เผยว่า การพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภาคที่อยู่อาศัยของเคหะสุขประชา จะมุ่งเน้นให้ผู้เช่าหรือผู้มีรายได้น้อยได้รับการเสริมสร้างทักษะที่เหมาะสมกับการประกอบอาชีพทั้ง 6 รูปแบบหลัก เพื่อต่อยอดสร้างระบบเศรษฐกิจชุมชมที่ครบวงจรและเอื้อต่อการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ซึ่งองค์ประกอบที่จำเป็นและทำให้การดำเนินการนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือการยกระดับด้านการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนได้มีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี รวมไปถึงสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยและการทำงานที่ได้คุณภาพ
ซึ่งนอกเหนือจากการสร้างความมั่นคงภาคที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องแล้ว เคหะสุขประชา ยังได้มีการดำเนินการความร่วมมือกับ “เอ็นที” (NT) หรือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้มีศักยภาพในการให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงระบบ 5G และดาวเทียม ตลอดจนการนำเอาดิจิทัลมาให้บริการสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
นายพิษณุพร อุทกภาชน์ กล่าวเสริมต่ออีกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะมีระยะเวลาการดำเนินการรวม 3 ปี ที่สององค์กรจะได้นำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญที่มีมาบูรณาการร่วมกัน ในแง่มุมของการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่มีเครือข่ายโทรคมนาคม-อินเทอร์เน็ตมาตรฐานมาใช้ในพื้นที่พักอาศัย, ใช้ในพื้นที่การทำงาน เช่น ตลาดสุขประชามาร์เก็ต ,ศูนย์การค้าเคมอลล์ , พื้นที่การเกษตรและอื่น ๆ ใช้อำนวยความสะดวกเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในชุมชน อาทิ การพัฒนาศูนย์สาธารณสุข-ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ เป็นต้น
ด้าน นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ NT และ เคหะสุขประชา มีเป้าหมายร่วมกันที่จะเสริมสร้างความมั่นคงและยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในโครงการเคหะสุขประชาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศแบบบูรณาการ ซึ่ง NT เอง พร้อมที่จะนำโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงนวัตกรรมทางการสื่อสารที่มีมาให้บริการเพื่อสนับสนุนให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ สามารถส่งเสริมให้ผู้ที่มีรายได้น้อยได้มีโอกาสที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และเข้าถึงเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และเพียงพอที่จะดำรงชีพได้อย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ระบบสื่อสารโทรคมนาคมในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัยง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยเปิดโลกกว้างให้ได้เรียนรู้และเปิดช่องทางในการหารายได้เสริม หรือแม้แต่อาจจะกลายเป็นรายได้หลักได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ NT มีความภูมิใจเพราะได้มีส่วนร่วมต่อการช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทย