400 จำนวนผู้เข้าชม |
รองนายกรัฐมนตรีให้เกียรติร่วมเปิดงาน “Thailand Smart City Expo 2022” งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับนานาชาติด้านเมืองอัจฉริยะ ระหว่าง 30 พ.ย.–2 ธ.ค. นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชี้เป็นเวทีดันไทยก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพผ่านความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ด้านผู้จัดงานเผยได้นำสินค้าและบริการทั้งไทยและนานาชาติร่วมแสดง พร้อมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้ความรู้ คาดผู้ร่วมงานไม่น้อยกว่า 8,000 คน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานพิธีเปิดงาน “Thailand Smart City Expo 2022” กล่าวว่า รัฐบาลมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลายภาคส่วนมีความสนใจและตื่นตัวในการร่วมกันพัฒนาประเทศตามแนวทางการขับเคลื่อนและพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 หมุดหมายที่ 8 โดยมีเป้าหมายในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเมืองให้มีความน่าอยู่ อย่างยั่งยืน มีความพร้อมในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมา ภาครัฐ ได้ส่งเสริมการพัฒนาเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการออกแบบนโยบายการขับเคลื่อนของประเทศ ให้เหมาะสมกับการพัฒนาเชิงพื้นที่ และมีเมืองที่ได้รับ “ตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย” แล้ว 30 เมือง จาก 23 จังหวัด ซึ่งเป็นการแสดงถึงความพร้อมในการพัฒนาเมืองโดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีระดับนานาชาติด้านเมืองอัจฉริยะ หรือ Thailand Smart City Expo 2022 จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะได้อย่างก้าวกระโดด และยั่งยืนเร็วยิ่งขึ้น “การจะบรรลุถึงเป้าหมายในการพัฒนา จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ องค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชน ประชาชน สถาบันการศึกษา และพันธมิตรนานาประเทศ ซึ่งวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในแบบอย่างของความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อการพัฒนาประเทศอย่างมีส่วนร่วม” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศทุกมิติ ผ่านนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” โดยมีเป้าหมายเพื่อการกระจายความเจริญและลดความเหลื่อมล้ำของประชากรในประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ภายใต้แนวคิดการพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ” และบูรณาการศาสตร์ที่หลากหลายเพื่อการพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของผู้คน ตามบริบทของสังคม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของพื้นที่ ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม
รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพื่อเป็นกลไกที่เป็นรูปธรรม ในการผลักดันให้เกิดเมืองอัจฉริยะในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ที่ผ่านมามีเมืองยื่นข้อเสนอแผนพัฒนาเมืองทั้งสิ้น 66 ข้อเสนอฯ และมีเมืองที่ได้รับการประกาศเป็น “เมืองอัจฉริยะ” แล้ว 30 พื้นที่ อาทิ ภูเก็ต ขอนแก่น พิษณุโลก อุบลราชธานี ฉะเชิงเทรา เทศบาลนครระยอง เทศบาลเมืองแสนสุข เทศบาลนครยะลา เทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงราย และ สามย่านสมาร์ตซิตี้ เป็นต้น ซึ่งพลวัตเหล่านี้จะกระตุ้นให้เมืองอื่น ๆ ที่มีความประสงค์จะดำเนินการได้มีต้นแบบของการพัฒนาเมืองต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการสร้างบุคลากรด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จึงเกิดโครงการบ่มเพาะนักดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ หรือ Smart City Ambassadors ที่เป็นทูตเทคโนโลยี ลงพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะกว่า 150 คน ในหน่วยงานร่วมพัฒนาเมืองใน 56 จังหวัด ทั่วประเทศ
สำหรับการจัดงาน Thailand Smart City Expo 2022 นี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ขอใช้โอกาสนี้เป็นเวทีเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้สนใจสามารถมาศึกษาเรียนรู้ ตลอดจนระดมสมอง ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ ทั้งยังเป็นการรวมตัวของผู้นำเมืองมากกว่า 100 เมือง ทำให้เกิดเครือข่ายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่เข็มแข็งในอนาคต รวมถึง จะมีพิธีมอบรางวัล The Smart City Solutions Awards 2022 เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่ผลงานต้นแบบของบริการเมืองอัจฉริยะ และเป็นต้นแบบของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริการประชาชนต่อไป อีกทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ และองค์ความรู้ที่จะเกิดขึ้น ภายในงาน Thailand Smart City Expo 2022 นี้ จะช่วยเสริมให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทยสามารถพัฒนาได้แบบก้าวกระโดดอย่างยั่งยืน และเป็นรูปธรรม ยิ่งขึ้น