406 จำนวนผู้เข้าชม |
หลังสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลาย หลายกิจการกลับมาเปิดให้บริการได้เกือบปกติ ประเภทกิจการที่คนรุ่นใหม่นึกถึงและอยากกลับมาใช้บริการมากเป็นอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น คาเฟ่สบาย ๆ ในบรรยากาศชิลล์ ๆ ที่พอจะเยียวยาจิตใจกันได้บ้าง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจการที่ผู้ประกอบการต้องทำการบ้านกันอย่างหนัก กับการปรับตัวรับมือพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนี้ คุณแพร-แพรวา ไชยซาววงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราวน์ ดีเซิร์ท จำกัด เจ้าของคาเฟ่สุดชิค Brown Café (บราวน์ คาเฟ่) ที่ให้บริการทั้งเครื่องดื่มและขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นหลากหลายเมนู ก็เป็นหนึ่งในกิจการที่ต้องปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจใหม่ เพื่อดึงลูกค้า ให้กลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยคุณแพรวาเล่าให้ฟังถึงการดำเนินกิจการช่วงที่ผ่านมา และการปรับโมเดลธุรกิจต่อจากนี้ไปว่า “ในช่วงที่ผ่านมาเราก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันต้องหากลยุทธ์รูปแบบใหม่ ๆ และแผนการทำตลาดที่หนักพอสมควรเพื่อให้ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้ บวกกับฐานลูกค้าเดิมที่คอยอุดหนุนเราด้วยดีเรื่อยมาด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ที่ผ่านมาในช่วง COVID-19 เราหันมาเน้นกลุ่มลูกค้าเดลิเวอรี่ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ร่วมแคมเปญอยู่ และเราหันมาเน้นด้าน Online Marketing มากขึ้นเพราะเป็นการตลาดที่ได้ผลและรวดเร็วมาก ในตอนนั้น ซึ่งก็ได้ผลยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิม กระทั่ง รัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการมากขึ้นแล้ว ทีมผู้บริหารเลยคุยกันว่าถึงเวลาแล้วที่จะปรับโมเดลธุรกิจอีก ลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มกลับมาใช้เวลานั่งทานที่ร้านมากขึ้น เราจึงเพิ่มสัดส่วนการขายหน้าร้านเพื่อสอดคล้องกับความต้องการและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เดิมของผู้บริโภคที่กำลังกลับมาและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วย แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเอาไว้ คือ Friendly Dessert for Your Health เรานิยามตัวเองเป็นคาเฟ่เล็กๆ สไตล์ Homey Natural
ภายในร้านจะตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ให้ดูอบอุ่น เป็นกันเอง ตามเทรนด์คนไทยที่ชอบแนวมินิมอล เรียบๆ แต่ละเมนูมีความเป็นเอกลักษณ์ทั้งขนมหวานและเมนูเครื่องดื่มและเมนูชาไข่มุกทุก เมนูทางร้านเราให้ความสำคัญกับ การเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ บางอย่างก็นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติแปลกใหม่ แต่ถูกปาก คนไทยยิ่งกว่าเดิม เป็นเมนูที่มีสีสันน่าทาน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกช่วงวัย ลูกค้าหลายคนเริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นโจทย์ที่ร้านเราต้องตีให้แตกว่าจะปรับไปในทิศทางใด เมนูของเราเดิมเป็น Healthy dessert อยู่แล้ว เราจึงเน้นย้ำ positioning ของเราเพื่อให้ลูกค้าได้ทานขนมที่ใส่ใจสุขภาพ เราจะเน้นไปที่เมนูที่ช่วยดูแลสุขภาพง่าย ๆ มีให้แคลลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำรสชาติอร่อย เป็นขนมที่ทานแล้วดีต่อสุขภาพ สามารถกลับมาทานได้เรื่อย ๆอย่างเมนูที่วางขาย ที่สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 เสียงตอบรับค่อนข้างดีซึ่งเราก็มีแผนจะขยายไลน์โปรดักซ์ลักษณะนี้ออกไปในสาขาอื่น ๆ ด้วย” นอกจากจะมีการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายหน้าร้านมากขึ้นแล้วนั้น คุณแพรวายังเผยด้วยว่า กำลังเตรียมแผนจะรุกตลาดอีกครั้ง ด้วยการขยายสาขาให้ใกล้ลูกค้ามากขึ้น “ใช่ค่ะ ตอนนี้เราโฟกัสอยู่ 2 ส่วน คือการบริหารจัดการในสาขาเดิมที่มีอยู่แล้วและมองหาทำเลใหม่ ๆ เพื่อขยายสาขา ซึ่งปัจจุบันมี 6 สาขาที่เป็นหน้าร้าน แต่ยังอยากขยายให้ครอบคลุมตามจุดต่าง ๆ ที่เราสามารถเข้าถึงได้และยังคงเป็นโซนใจกลางเมือง เนื่องจากเป็นทำเลที่เราคุ้นเคยกับพื้นที่ คาดว่า ในปี 2565 น่าจะเพิ่มขึ้นได้ 1-2 สาขา ถ้าจะพูดโดยรวมแล้ว เราปรับแผนการดำเนินงาน โดยหวังให้ Brown Café โตขึ้นราว ๆ 40-50% การปรับโมเดลธุรกิจครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายอีกครั้ง และเป็นช่วงที่ทีมผู้บริหาร และน้อง ๆ หน้าร้านเองต้องศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าที่มาใช้บริการอย่างหนัก เพื่อนำมาสรุปและปรับปรุงกัน แบบวันต่อวัน โดยทั้งสองช่องทาง ทั้งหน้าร้านเอง เดลิเวอรี่เอง ก็ต้องเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน เครื่องดื่มหรือขนมก็ต้องคิด ใหม่หมด ให้ได้รูปลักษณ์และแพคเกจจิ้งที่ทานง่าย ขนส่งง่าย ไม่ว่าจะทานที่ไหน ลูกค้าเราจะต้องไม่รู้สึกแตกต่าง เพราะสิ่งที่เราเห็นได้ชัดในการทำธุรกิจตอนนี้ คือ คู่แข่งร้านเดิมกลับมาเปิดอีกครั้งเหมือนกัน แถมร้านใหม่ก็เกิดขึ้นอีกเยอะ การปรับตัวและช่วงชิงโอกาสจึงสำคัญในช่วงเวลานี้อย่างที่บอกค่ะ เราต้องตีโจทย์ความต้องการของลูกค้าเดิมของเรา ให้แตก ขณะเดียวกันก็ต้องจับจุดลูกค้าใหม่ให้ได้โดยเร็วภายใต้บรรยากาศที่เหมือนกันเมื่อก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ลูกค้าต้องสัมผัสได้ถึงการบริการด้วยความจริงใจ และความเป็น Warm Welcome Japanese Dessert ที่ชัดเจน แต่เพิ่มเติมเรื่องความหลากหลาย วาไรตี้ ในส่วนของเมนูต่าง ๆ ให้ลูกค้ากลับออกไปด้วยความประทับใจค่ะ”
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและอัปเดตโปรโมชั่นใหม่ ได้ทาง
https://www.facebook.com/browndessert